เที่ยวเกาะร้างฮาชิมะ…ยุคทองของเหมืองถ่านหิน PART 2/2

หลังจากบทความที่แล้วได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของเกาะฮาชิมะกันมาพอสมควรแล้ว บทความนี้เราจะพาทุกท่านออกเดินทางข้ามทะเลไปดูสภาพของเกาะฮาชิมะที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เล่าวิธีการเดินทาง รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อการเดินทางครั้งนี้ ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปกันเลย!

เตรียมตัว

ก่อนอื่นเลยนั้น การเดินทางไปยังเกาะฮาชิมะจำเป็นต้องใช้บริการเรือทัวร์ โดยหลักๆแล้วจะมีอยู่ 4 แห่งด้วยกัน ซึ่งผมได้รวบรวมข้อมูลของแต่ละที่ไว้ดังนี้ (ข้อมูลเป็นของปี 2021)

1.やまさ海運 (Yamasa Shipping)
ค่าบริการ 4200 เยน (ไม่รวมค่าธรรมเนียม 310 เยน)
ออกเรือวันละ 2 รอบ (9:00/13:00)
https://www.gunkan-jima.net

2.軍艦島クルーズ (Gunkanjima Cruise)
ค่าบริการ 3600 เยน (ไม่รวมค่าธรรมเนียม 310 เยน)
ออกเรือวันละ 2 รอบ (9:10/13:00)
3.シーマン商会
ค่าบริการ 3600 เยน (ไม่รวมค่าธรรมเนียม 310 เยน)
ออกเรือวันละ 2 รอบ (10:30/13:40)
*มีคูปองส่วนลดในเว็บไซต์
https://www.gunkanjima-tour.jp

4. 軍艦島コンシェルジュ (Gunkanjima Concierge)
ค่าบริการ 4000 เยน〜 (ไม่รวมค่าธรรมเนียม 310 เยน)
ออกเรือวันละ 2 รอบ (10:30/13:40)
https://www.gunkanjima-concierge.com

หมายเหตุ
-เป็นระบบการจองล่วงหน้าทั้งหมด
-งดการออกเรือหรือขึ้นเกาะในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม
-เลือกเครื่องแต่งกายที่เคลื่อนไหวสะดวก
-ใช้เวลาเดินทางและทัศนศึกษารอบละประมาณ 2 ชม.ครึ่ง ถึง 3 ชม.

ออกเดินทาง

ท่าเรือนางาซากิ

เริ่มต้นจากการเดินทางมาขึ้นเรือที่ท่าเรือนางาซากิในช่วงเช้า (ส่วนตัวใช้บริการทัวร์ของシーマン商会 ) ด้วยความตื่นเต้นเลยไปถึงท่าเรือก่อนเวลาพอสมควร เรียกว่าเป็นผู้โดยสารคนแรกของเที่ยวเลยก็ว่าได้555 เมื่อเข้าไปยังภายในเรือและทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะได้รับของที่ระลึกเป็นแผ่นพับประวัติความเป็นมาของเกาะ พัดกระดาษ และที่พิเศษสุดคือเศษก้อนถ่านหินของจริง ไร้กลิ่น แต่เนื่องจากเป็นวัตถุติดไฟ จึงไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ ระวังข้อนี้กันด้วยนะครับ ที่นั่งภายในเรือสามารถเลือกได้ตามใจชอบ ใครมาก่อนได้ก่อน ทางเจ้าหน้าที่ก็ใจดีแนะนำให้นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวาเพราะว่าวิวดี ผ่านสถานที่สำคัญเยอะ ระหว่างทางที่เรือมุ่งหน้าไปยังเกาะ ไกด์จะแนะนำสถานที่สำคัญสองข้างทางที่เรือแล่นผ่าน

อู่ต่อเรือ

หลังจากออกจากฝั่งได้ไม่นานสถานที่แรกที่เราจะผ่านคืออู่ต่อเรือของบริษัทมิซูบิชิ ซึ่งมีเรือขนาดใหญ่และเครนที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ โดยอู่แห่งนี้มีอายุยาวนานกว่าหนึ่งร้อยปี มีบทบาทสำคัญในการสร้างเรือรบช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากนั้นจะลอดผ่านใต้สะพานแขวนใหญ่ Megami หรืออีกชื่อคือ Venus Wing ที่เชื่อมต่อระยะทางที่สั้นที่สุดระหว่างส่วนใต้และตะวันตกของเมืองเข้าด้วยกันเพื่อลดสภาวะจราจรที่ติดขัด

สะพาน Megumi

เมื่อเรือแล่นเข้าใกล้ถึงเกาะแล้ว จะค่อยๆวนรอบเกาะหนึ่งรอบ เพื่อให้เห็นบรรยากาศจากมุมต่างๆ เพราะภายในเกาะจะสามารถชมได้เฉพาะจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น

ทัศนศึกษา

จุดแรกที่เราจะพบหลังจากลงจากเรือและเดินข้ามสะพานเข้าสู่เกาะแล้วนั้นคือ ปากอุโมงค์ที่ถูกปิดไว้และทางสายพานลำเลียงที่เคยใช้สำหรับขนส่งถ่านหิน ถังกักเก็บน้ำ และซากที่พักอาศัยของพนักงาน ลึกไปทางด้านหลังจะเป็นอาคารพักอาศัยหมายเลข 65 (ใช้หมายเลขต่างๆเป็นชื่อเรียกอาคารภายในเกาะ)อันมีชื่อเสียง ถือเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน สร้างขึ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปีโชวะ 20 (ค.ศ. 1945) สามารถจุได้กว่า 300 ครัวเรือน ภายในอาคารมีร้านทำฟัน ร้านตัดผม นอกจากนี้บนดาดฟ้าของชั้น 9 ยังเคยเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กมาก่อน

ห่างจากจุดแรกมาเล็กน้อย จะเป็นส่วนของสำนักงานใหญ่ที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นในสภาพของซากกำแพงอิฐสีแดง พื้นที่แห่งนี้เป็นใจกลางของเหล่าพนักงานขุดเหมือง เพราะมีห้องอาบน้ำไว้ใช้ชำระล้างสิ่งสกปรก ล้างเขม่าควันดำที่เกาะบนใบหน้าจนขนาดที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร หลังจากที่ตรากตำทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนที่จะกลับบ้านของแต่ละคน

ต่อมาจุดสุดท้ายเป็นอาคารพักอาศัยหมายเลข 30 อาคารแรกที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีอายุมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปีไทโช 5 (ค.ศ. 1916)  แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองสุดขีดทางด้านเทคโนโลยีในสมัยนั้น ภายในแต่ละห้องขนาด 1K มีเตาถ่านคามาโดะติดตั้ง นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์อีกด้วย

ประกาศนียบัตร

ก่อนสิ้นสุดการเดินชมภายในเกาะก็ได้ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก ระหว่างที่นั่งเรือกลับนั้นจะได้รับประกาศนียบัตรเพื่อยืนยันว่าครั้งหนึ่งได้เคยมาเยือนเกาะแห่งนี้ ส่วนตัวแล้วรู้สึกคุ้มค่าที่ได้มาสักครั้งหนึ่ง การเดินทางครั้งนี้ได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ในยุคหนึ่งของญี่ปุ่นที่เกาะแห่งนี้เปรียบเสมือนหัวหอกในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ และยังเพิ่มความสนใจเกี่ยวกับแหล่งมรดกโลก (World Heritage Site) มากยิ่งขึ้น ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปเที่ยวหลายๆที่ รวมถึงของประเทศอื่นๆด้วย เพื่อนำมาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังกันอีก หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน ให้เกาะฮาชิมะไปอยู่ในลิสต์การท่องเที่ยวครั้งต่อไป สำหรับใครที่สนใจ หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามกันมาได้ครับ

เพราะการเดินทางคือการเรียนรู้

ขอให้ทุกคนสนุกกับการท่องเที่ยวครับ

ปิดท้ายด้วยรูปไกด์ใจดีที่อธิบายให้ฟังอย่างมืออาชีพ

ติดตามทความเพิมเติมได้ที่ https://japantoprank.com/travels-in-japan/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *